กระทู้ถามตอบ


1.คำคุณศัพคืออะไรและใช้อย่างไร

ตอบ    -คือการเปรียบเทียบตั้งแต่สามขึ้นไปปรากฏว่ามีส่วนหนึ่งสูง,ต่ำ,ยาว,ใหญ่
             วิธีใช้ A cat is the bigger animal in the is room
             แมวเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในห้อง

2.หลักการใช้ comparative of Adjectives คืออะไร

ตอบ  หลักการใช้สำคัญประการที่หนึ่งเกี่ยวเนื่องกับคำคุณศัพก็คือ come parative
          จำแนก2ระดับคือ  
1.comparative adjective  แสดงความมากกว่า
                                     
 2 superlative adjective     แสดงมากสุดน้อยสุด

3ชนิดadjective แบ่งกี่ชนิด และคืออะไรบ้าง 

  ตอบ  มี11 ชนิด ก็จะมี

1. Descriptive Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกลักษณะ" หมายถึง คำที่ใช้ลักษณะหรือคุณภาพของคนสัตว์ สิ่งของและสถานที่เพื่อให้รู้ว่า นามนั้นมีลักษณะอย่างไร ได้แก่คำว่า
good, bad, tall, shot, black, fat, thin, fat, thin, clever, foolish, poor, rich, brave, cowardly, pretty, ally, happy, sorry, etc.

ตัวอย่างเช่น 

The rich man lives in the big house. (คนรวยอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่)


ข้อสังเกต : rich, big, clever, difficult, black และ small เป็นคุณศัพท์บอกลักษณะ

2. Proper Adjective คือ "คุณศัพท์บอกสัญชาติ" หมายถึง คำที่ไปขยายนามเพื่อบอกสัญชาติ



3. Qualitative Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกปริมาณ" หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เพื่อบอกให้ทราบปริมาณของสิ่งเหล่านั้นว่า มีมากหรือน้อย (แต่ไม่บอกจำนวนแน่นอน)ได้แก่ much, many, little, some, any, enough, half, great, all, whole, sufficient, etc.
He ate much rice at school yesterday.
(เขากินข้าวมากที่โรงเรียนเมื่อวานนี้)
Linda did not give any money to her younger brother.





ข้อสังเกต : much, any, great ในประโยชน์ทั้ง 3 เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ





4. Numeral Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน" หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เมื่อบอกจำนวนแน่นอนของนามว่ามีเท่าไหร่ แบ่งเป็นชื่อย่อยได้ 3 ชนิด คือ
   4.1 Cardinal Numeral Adjective คือ คุณศัพท์ที่ใช้บอกจำนวนนับที่แน่นอนของนาม ได้แก่
one, two, three, four, five, six, seven, etc.
ตัวอย่างเช่น :
She gave me two apples and three organs.
(หล่อนให้แอปเปิ้ลสองผล และส้มสามผลแก่ฉัน)
Bill wants to buy seven pens.
(บิลต้องการซื้อปากกาเจ็ดด้าม)
ข้อสังเกต : two, three, seven เป็นคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอนวางไว้หน้านาม



5. Demonstrative adjective คือ คุณศัพท์ชี้เฉพาะหรือนิยมคุณศัพท์หมายถึง คําที่ชี้เฉพาะให้กับนามใดนามหนึ่ง ได้แก่ this, that (ใช้กับนามเอกพจน์), these ,those (ใช้กับนามพหูพจน์) such, same
ตัวอย่างเช่น:
I invited that man to come in.
(ฉันได้เชิญผู้ชายคนนั้นให้เข้ามาข้างใน)


ข้อสังเกต: that,such,same เป็นคุณศัพท์ชี้เฉพาะวางไว้หน้านาม


6. interrogative adjective คือ คุณศัพท์บอกคําถามหมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อให้เป็นคําถามโดยจะวางไว้ ต้นประโยคและมีนามตามหลังเสมอ ได้แก่ what, which, whose


ตัวอย่างเช่น:

What book is he reading in the room?
(เขากําลังอ่านหนังสืออะไรอยู่ในห้อง)
Which way shall we go?
(เราจะไปทางไหนกันนี่?)

ข้อสังเกต: what,which,whose เป็นคุณศัพท์บอกคําถามอยู่หน้าประโยค


7. Possessive adjective คือ คุณศัพท์บอกเจ้าของหรือสามีคุณศัพท์ หมายถึง คําคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกความเป็นเจ้าของของนาม ได้แก่ my,our,your,his,her,itsและtheir

ตัวอย่างเช่น :
This is my table.
(นี่คือโต๊ะของฉัน)
Her pen is on my desk.
(ปากกาของหล่อนอยู่บนโต๊ะฉัน)
Our nation needs solidarity.
(ชาติของเราต้องการความสามัคคี)

ข้อสังเกต : my, her, our, their เป็นคุณศัพท์บอกเจ้าของวางไว้หน้านาม


8. Distributive คือ คุณศัพท์แบ่งแยก หมายถึง คําคุณศัพท์ที่ไปขยายนาม เพื่อแยกนามออกจากกันเป็น อันหนึ่ง หรือส่วนหนึ่งได้แก่ each(แต่ละ), every(ทุกๆ), either(ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither(ไม่ทั้งสอง)

ตัวอย่างเช่น :
The two men had each a gun.
(ชายสองคนนี้มีปืนคนละกระบอก)
Every soldier is punctually in his place.
(ทหารทุกคนเข้าประจําที่ของตัวตรงเวลาดี)
Either side is a narrow lane.

ข้อสังเกต: each,every,either,neither เป็นคุณศัพท์แบ่งแยกมาขยายนาม


9. Emphasizing Adjective คือ คุณศัพท์เน้นความ หมายถึงคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อเน้นความให้มีนำหนักขึ้น ได้แก่ own(เอง),very(ที่แปลว่า นั้น,นั้นเอง,นั้นจริงๆ)

ตัวอย่างเช่น:
Linda said that she had seen it with her own eyes.
(ลินดาพูดว่าหล่อนได้เห็นมันมากับตาเธอเอง)
He is the very man who stole my wrist watch last night.

ข้อสังเกต : own,very เป็นคุณศัพท์เน้นความขยายนามที่ตามหลังให้มีนําหนักขึ้น


10. Exclamatory Adjective คือ คุณศัพท์บอกอุทาน หมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายเพื่อให้เป็นคําอุทาน ได้แก่ what

ตัวอย่างเช่น:
What a man he is!
(เขาเป็นผู้ชายอะไรนะเนี่ย!)
What an idea it is!
(มันเป็นความคิดอะไรกันหนอ!)
What a piece of work he does!
(เขาทํางานได้เยี่ยมจริงๆ!)
ข้อสังเกต : what ทั้ง 3 คํา ในประโยคเหล่านี้เป็นคุณศัพท์บอกอุทาน


11. Relative Adjective คือ คุณศัพท์สัมพันธ์ หมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามที่ตามหลังและในขณะเดียวกันก็ยังทําหน้าที่คล้ายส้นธาน

เชื่อมความในประโยคของตัวเองกับประโยคข้างหน้าให้สัมพันธ์กันอีกด้วย ได้แก่
what(อะไรก็ได้),whichever(อันไหนก็ได้)
ตัวอย่างเช่น:
Give me what money you have.
(จงให้เงินเท่าที่คุณมีอยู่แก่ฉัน)

ข้อสังเกต : What, Whichever เป็นคุณศัพท์สัมพันธ์ ไปขยายนามที่ตามหลัง และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าและประโยคหลังให้กลมกลืนกันอีกด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลักการใช้ Comparative of adjectives

การสร้างคำคุณศัพท์ (Formation of Adjective)